นายอาลาวีกล่าวว่า การรถไฟแห่งประเทศไทยคำนึกถึงมาตรฐานความปลอดภัยของผู้โดยสารและผู้มาใช้ บริการโดยสารรถไฟในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงมีการติดตั้งเครื่องตรวจอาวุธและวัตถุระเบิดแบบเอกซเรย์ช่องอุโมงค์ สัมภาระ เครื่องตรวจจับโลหะ แบบเดินผ่าน และเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดแบบมือถือพกพา ณ สถานีรถไฟสุไหงโก-ลก รวมทั้งสถานีรถไฟในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้รวม 27 สถานี โดยผู้ที่มีความประสงค์จะเดินทางเข้ามาในบริเวณสถานีรถไฟทุกแห่งที่ติดตั้งอุปกรณ์เหล่านี้ ต้องนำสัมภาระทุกชนิด อาทิ กระเป๋าเสื้อผ้า อุปกรณ์สื่อสาร กล้องถ่ายรูป โน้ตบุ๊ก เข้าเครื่องตรวจอาวุธและวัตถุระเบิดแบบเอกซเรย์ช่องอุโมงค์สัมภาระ แล้วเดินผ่าน เครื่องตรวจจับโลหะ แบบเดินผ่าน หากมีเสียงเตือนดังเจ้าหน้าที่จะใช้เครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดแบบมือถือพกพา ตรวจอีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการลักลอบนำระเบิด อาวุธ หรือวัตถุต้องสงสัยเข้ามาภายในพื้นที่สถานีรถไฟ หรือนำขึ้นไปบนขบวนรถไฟได้
ทั้งนี้ ปัจจุบันสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก มีผู้มาใช้บริการประมาณ 1,000 คนต่อวัน ดังนั้นในระยะแรกอาจเกิดความล่าช้า หรือมีปัญหาในการให้บริการ เนื่องจากเป็นช่วงของการทดสอบการใช้งาน แต่ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าประชาชนและผู้โดยสารทุกคนจะให้ความร่วมมือกับเจ้า หน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เพื่อให้มาตรการรักษาความปลอดภัยมีประสิทธิภาพสูงสุด
ด้านนายสุชล ชัยวิชาญ วิศวกรประจำบริษัท CREATUS ผู้ติดตั้งระบบ กล่าวว่า เครื่องมือและอุปกรณ์ทุกชนิดที่นำมาติดตั้งเป็นมาตรฐานเดียวกับที่ติดตั้ง ณ การท่าอากาศยานทุกแห่งของประเทศ ซึ่งสามารถตรวจหาวัตถุระเบิด อาวุธวัตถุต้องสงสัย รวมทั้งยาเสพติดที่มีการซุกซ่อนมากับสัมภาระได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในบริเวณ พื้นที่ของสถานีรถไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่มา มติชนออนไลน์
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1455783956#
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น